หลายคนคงเคยเห็นเด็กทารกร้องไห้ติดต่อกันเป็นเวลานานโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการนี้ทางการแพทย์เรียกว่า โคลิค (colic) สาเหตุของอาการโคลิคเกิดจากอะไรและจะเกิดกับเด็กทารกทุกคนหรือไม่
แพทย์หญิง รัตโนทัย พลับรู้การ กุมารแพทย์สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี อธิบายว่าอาการโคลิคที่เกิดกับเด็กนั้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน โดยทั่วไปโคลิคเป็นอาการที่พบในเด็กแรกเกิดไปจนถึงอายุประมาณ 3-4 เดือน เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ปวดท้องร้องสามเดือน โดยเด็กจะมีอาการร้องไห้ไม่หยุด ส่วนใหญ่เป็นช่วงเย็นจนถึงค่ำต่อเนื่องไป จนถึงดึก เด็กจะมีอาการคล้ายปวดท้อง เด็กจะร้องแบบเอาเป็นเอาตาย ขาทั้งสองหงิกงอและหดเกร็ง ร้องจนหน้าแดง และร้องติดต่อกัน 2-3 ชั่วโมง สัปดาห์หนึ่งอาจจะร้องไห้เกือบทุกวัน บางครั้งก็ร้อง 3 วันในหนึ่งสัปดาห์ เด็กกลุ่มนี้จะทำให้พ่อแม่วิตกกังวลมาก ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงของอาการโคลิคยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีข้อสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากสาเหตุหลัก 3 ประการคือ
สาเหตุที่ 1 อาจจะเกิดจากการที่เด็กรับประทานอาหารอิ่มเกินไป เช่น เด็กบางคนดื่มนมเยอะพอตกเย็นก็เกิดอาการ แน่นท้อง ปวดท้อง
สาเหตุที่ 2 อาจจะเกิดจากการแพ้นมวัวแต่ก็พบว่าไม่เป็นความจริง เพราะว่าในเด็กที่ดื่มนมแม่ก็มีปัญหาการเกิดอาการโคลิกเช่นกัน
สาเหตุที่ 3 อาจเกิดจากความผิดปกติของลำไส้เนื่องจากลำไส้ของเด็กทารกอาจจะทำงานยังไม่สมบูรณ์
ดังนั้น การที่จะบอกว่าอาการโคลิคเกิดจากสาเหตุใดนั้นก็ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน เมื่อพ่อแม่ที่ประสบปัญหามาปรึกษาแพทย์ ส่วนใหญ่แพทย์จะถามอาการและการตรวจร่างกายเพื่อดูว่าระบบต่างๆ ในร่างกายเด็กทำงานผิดปกติหรือไม่ ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติแพทย์ก็จะให้คำปรึกษากับพ่อแม่ เช่น ต้องตอบสนองต่อเด็กให้เหมาะสม เป็นต้น เพื่อช่วยให้เด็กกลุ่มนี้มีอาการดีขึ้น
TIPS
1.อุ้มเด็กอยู่กับเราเสมอ โยกตัวเด็กให้เคลื่อนไหว ไปพร้อมกับตัวเราอาจช่วยให้เด็กหยุดร้องไห้
2.ลองอุ้มเคลื่อนไหวเด็กอย่างเป็นจังหวะหรือเต้นตามเสียงเพลง
3.ให้เด็กสวมเสื้อผ้าที่แห้งไม่อับชื้น
4.ให้เด็กอยู่เงียบๆ ในห้องที่ทำให้รู้สึกสบาย
5.วางเด็กนั่งลงบนตัก ลักษณะคว่ำแล้วลูบหลังเบาๆ
6.ห่อตัวเด็กด้วยผ้าห่ม เพื่อทำให้ อบอุ่น สบาย และรู้สึกปลอดภัย
เหล่านี้เป็นวิธีที่ช่วยลดอาการโคลิคในเด็กได้ |